วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Moi-Même



Je suis capricieuse , sociable , gaie  , timide et ambitieuse.

Je n'aime pas des gens qui sont jaloux ,  hypocrites, égoïstes , capricieux et menteurs.


Je suis ambitieuse , paresseuse et nerveuse.

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552

10 สิ่งที่สาวๆต้องทำในหนาวนี้

ฤดูหนาวที่กำลังมาเยือนอาจทำให้สาวๆ หลายคนเจ็บไข้ได้ป่วย หรือผิวแห้งแตกลอกได้ง่ายๆ นะคะ ยิ่งถ้าสาวๆ คนไหนไม่ดูแลตัวเองด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งเสี่ยงต่ออาการเจ็บไข้ได้ป่วยกันเข้าไปใหญ่เลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้น "ดูแลตัวเองให้สวยกว่าใคร" วันนี้ เลยมี 10 ข้อปฏิบัติดีๆ ที่สาวๆ ควรทำในหนาวนี้มาฝากกันค่ะ


1. อาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนทุก 5 หมู่ ยังคงจำเป็นต่อสาวๆ นะคะ สาวๆ ควรดื่มน้ำและออกกำลังกายมากๆ อาทิตย์ละ 3 ครั้งกำลังดีเลย



2. ช่วงหน้าหนาวแบบนี้เป็นปัจจัยอย่างดีที่ก่อให้เกิดการระบาดของไข้หวัด เพราะฉะนั้นถ้าเลี่ยงได้สาวๆ ควรเลือกที่จะอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทเพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการติดไข้หวัดได้น้อยลงค่ะ

3. การล้างมือบ่อยๆ ยังคงเป็นสิ่งที่ควรทำนะคะ เพราะวันๆ นึงเราต้องเจอเชื้อโรคตั้งมากมาย ถ้ามีโอกาสล้างมือน้อยก็ลองเลือกใช้เจลล้างมือแทนก็ได้ค่ะ


4. ไหนๆ ก็หน้าหนาวทั้งทีแล้ว อย่าอายถ้าจะหยิบเสื้อหนาวสวยๆ มาใส่นะคะ เพราะอย่างแรกคือสาวๆ จะได้ไม่ตกเทรนด์ หนาวนี้สาวๆ dek-d.com จะได้เก๋กับแฟชั่นหน้าหนาว และอีกอย่างการใส่เสื้อหนาวจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของเราเองค่ะ เพราะการใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นจะเป็นการลดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกายทำให้เรารักษาอุณหภูมิของร่างกายให้ปกติได้ค่ะ

5. การอาบน้ำหลังจากตื่นนอนอาจไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่หรือฟอกเพียงบางจุด หรือหากอยู่ในที่ที่อากาศหนาวมากๆ อาจไม่จำเป็นต้องอาบน้ำวันละสองครั้งตามปกติ และไม่ควรอาบน้ำนานๆ

6. สาวๆ ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดจนเกินไป โดยเฉพาะการล้างหน้า เพราะน้ำอุ่นจะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวหายไป นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีฟองมากๆ ด้วยนะคะ เพราะจะดึงความชุ่มชื้นไปจากผิว และไม่ควรเช็ดถูผิวแรงๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวลอกมากขึ้นด้วย

7. สาวๆ จะต้องทาโลชั่นบำรุงผิวหลังอาบน้ำขณะที่ตัวยังหมาดๆ จะช่วยป้องกันผิวแห้ง แตก ลอก ในฤดูหนาวได้ และควรทาให้ทั่วร่าไม่ใช่เฉพาะแขนกับขาเท่านั้นนะคะ แต่จะต้องทาทั้งตัวเลย ตั้งแต่หัวจรดเท้า การทาโลชั่นที่เท้าจะช่วยให้เท้าเนียนนุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหาส้นเท้าแตกได้อีกด้วยค่ะ


ส่วนมือที่แห้งและแตก ก็ควรหมั่นทาครีม หรือโลชั่น เช่นกัน นอกจากจะช่วยให้ความชุ่มชื้นแล้วยังช่วยให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นด้วย สำหรับสาวๆ คนไหนที่มือแห้งมากๆ ลองนวดด้วยน้ำมันมะกอกทิ้งไว้สักพัก ล้างออกด้วยน้ำสบู่ แล้วนวดด้วยครีมทามืออีกครั้ง ไม่ช้าริ้วรอยแห้งแตกก็จะหายไปค่ะ

8. ริมฝีปากของสาวๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะคะ ริมฝีปากที่แห้งแตกก็ควรได้รับการบำรุงและปกป้อง สาวๆ ควรมีลิปมัน หรือลิปบาล์มติดตัวไว้เสมอ และทาทุกครั้งที่รู้สึกว่าปากแห้งที่สำคัญ ไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อยๆ เพราะจะยิ่งทำให้ปากแห้งแตกมากขึ้น

9. ในช่วงหน้าหนาวสาวๆ ไม่จำเป็นต้องสระผมบ่อยๆ เช่นกัน และใช้แชมพูในปริมาณน้อยๆ ก็เพียงพอแล้ว เพราะจะทำให้เส้นผมแห้งแตกปลายได้ง่าย และยังทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไปจนเกิดรังแคได้อีกด้วย สำหรับผมที่แห้งมาก การเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะสำหรับผมแห้งจะช่วยได้ หลังการสระผมอาจใช้น้ำมันบำรุงเส้นผมทาเคลือบที่ปลายผมบางๆ เพื่อลดไฟฟ้าสถิต ช่วยให้ผมไม่ฟู

10. และสุดท้ายบำรุงร่างกายภายนอกกันแล้ว ก็อย่าลืมบำรุงร่างกายให้ชุ่มชื้นจากภายในด้วยนะคะ สาวๆ สามารถทำได้โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน โดยเฉพาะน้ำอุ่นซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของคุณอุ่นขึ้น นอกจากนี้ควรรับประทานผักผลไม้สดให้มากด้วย เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื้นจากภายใน


และนี่ก็คือ 10 ข้อควรปฏิบัติง่ายๆ ที่สาวๆ ไม่ควรละเลยนะคะ ... หนาวนี้สาวๆ จะได้สวยอย่างมีสีสันและมีสุขภาพทั้งภายนอกและภายในที่สมบูรณยังไงล่ะค่ะ ^^

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มีสุนัขในบ้านระวังนอนกรน



การเลี้ยงสุนัขในบ้าน มีผลต่อระบบทางเดินหายใจของเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ด้วยนะ คือการโตขึ้นมาเป็นคนนอนกรน




คณะนักวิจัยสวีเดนและนอร์เวย์ ร่วมกันศึกษาพบว่า เด็กที่โตขึ้นในบ้านที่เลี้ยงสุนัข เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวจะนอนกรนดัง เช่นเดียวกับเด็กที่เป็นสมาชิกของครอบครัวใหญ่ หรือเคยเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ หรือหูอักเสบมาเมื่อตอนเป็นเด็ก



วารสารวิชาการ "การวิจัยระบบทางเดินหายใจ" ของสหรัฐฯแจ้งว่าคณะนักวิจัยผสม ได้ศึกษากับคนจำนวนเกือบ 116,000 คน โดยใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับชีวิตวัยเด็ก นิสัยในการสูบบุหรี่ น้ำหนักตัว ครอบครัวและการนอนพบว่า หนึ่งใน 5 เป็นผู้ที่นอนกรนเป็นนิสัย ในอาทิตย์หนึ่งจะนอนกรนเสียงดังไม่ต่ำกว่า 3 คืน




รายงานผลการศึกษากล่าวว่า เด็กที่มีพ่อแม่เลี้ยงสุนัขเมื่อตอนเกิด เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะกลายเป็นคนนอนกรนเป็นนิสัยถึงร้อยละ 26 แต่ถ้ามีพ่อแม่เลี้ยงแมวกลับไม่เป็นไร





หมอคาร์ล แฟรงกลิน แห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอูเม ของสวีเดนกล่าวว่า "การเปลี่ยนแปรทางกายวิภาคทางเดินหายใจส่วนบนเมื่อตอนเด็ก ทำให้ล่อแหลมกับการกลายเป็นผู้ใหญ่ ที่เป็นคนนอนกรนมากขึ้น"




ขนของสุนัขมีผลต่อทางตรงกับระบบทางเดินหายใจของเด็กๆ ดังนั้นถ้าใครมีน้อง และที่บ้านเลี้ยงสุนัข ก็พยายามทำความสะอาดให้บ่อยๆ ถ้าจะให้ดีที่สุดแยกให้เป็นสัดเป็นส่วนชัดเจนเลยดีกว่า














วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

9 วิธี “ทำอย่างไร...ถึงจะไม่หลับคาโต๊ะกวดวิชา”






1. ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องเข้าเรียนแต่เช้า : ก็อย่าดูหนังดูละครจนดึกเกินสี่หรือห้าทุ่ม เพราะเวลานอนที่ขาดไปมันมักจะมาเอาคืนช่วงเรียนพิเศษที่มีอาจารย์ในดีวีดีมากล่อมเสมอ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหากนอนดึกแล้ว ก็ไม่มีวิธีไหนที่จะมาทำให้เราหายง่วงได้ นอกจากไปกินกระทิงแดง (แต่ก็ไม่แนะนำว่าไม่ดีต่อสุขภาพ)

2. พกขนมหรือน้ำเข้าไปด้วย : แต่ !!! ห้ามกินตั้งแต่เริ่มเรียน เพราะจะทำให้ง่วงง่ายมากกกกก ให้กินเมื่อเริ่มง่วงเท่านั้น (บางทีลองซื้อขนมที่เวลาแกะแล้วเสียงดังๆ เพราะเวลาแกะขนมนั้นจะทำให้เราตื่นเต้นและกลัวว่าคนข้างๆ จะด่า (มันมีวิธีอย่างนี้ด้วยเรอะ) ทำให้ตาสว่าง แต่ถึงอย่างไร ถ้าคิดว่าจะรบกวนคนข้างๆ ละก็ ก็ให้ซื้อขนมจุกจิกเล็กๆน้อยๆไปแทน) เมื่อหายง่วงก็ให้หยุดกินแล้วตั้งใจเรียนต่อไปซะ




3. อุปกรณ์สำหรับเรียนกวดวิชา : สำคัญนะคะ เพราะเวลาเราง่วงๆ ก็หยิบปากกาสี หรือพวกไฮไลท์มาวาดๆ เขียนในหนังสือให้มันคัลเลอร์ฟูลไปเลย แต่อย่าทำให้เลอะเทอะไป เพราะเวลาทบทวนหนังสืออาจจะทำให้เรามึนได้ ให้วาดๆ เขียนๆ ด้านหลังหนังสือก็ได้ หรือไม่ก็เวลาอาจารย์ให้เน้นอะไรก็ใส่สีให้พอสวยงามก็ทำให้เราหายง่วงได้เช่นกันค่ะ แต่ถึงยังไงก็ต้องตั้งใจฟังอาจารย์อย่ามัวแต่วาดเพลินนะคะ




4. ฝึกจินตนาการผ่านกวดวิชา : ลองมองดูอาจารย์สอนกวดวิชาสิคะ ท่านจะมีอะไรให้เราได้จินตนาการไปเรื่อยเปื่อยอยู่เสมอ ตั้งแต่คำพูดติดปากของอาจารย์ สีเสื้อผ้า ทรงผม เสียงหัวเราะของอาจารย์ บางที...มุขฝืดๆของอาจารย์ก็ช่วยพวกเราจากความง่วงงันได้เหมือนกันนะ








5. สำหรับคนที่ชอบหลับคาโต๊ะกวดวิชา : เราขอแนะนำ!! ให้ลองก้มลงไปนอนโต๊ะคนอื่นดูค่ะ (หา!!) แล้วจะไม่ง่วงอีกเลย (แต่จะได้เบ้าตาหมีแพนด้ามาแทน ...อ้าว)




6. ตั้งใจฟังอาจารย์ : เรียนให้เต็มที่ คำนวณอะไรก็คิดๆๆๆๆๆ คิดผิดก็คิดมันไป อาจารย์เฉลยว่าผิดแล้วก็ลบแอบๆ หน่อย (อายคนข้างๆ) พอเวลาคำนวณถูกก็เปิดมันเลย! ดูเส่ะๆพวกหล่อน ฉันคิดถูก ว่ะฮ่าๆๆๆ











7. สำหรับคนที่กินขนมแล้วชอบหลับ : แนะนำค่ะ ลูกอมรสเปรี้ยวๆ กินแล้วตื่นเต็มตาเลยค่ะ (แต่ถ้ากินบ่อยๆอาจทำให้คุณชินและหลับได้แม้กระทั้งในปากเปรี้ยวจี้ด) หรือไม่ก็ลูกอมมิ้นท์เย็นๆ แบบว่าเย็นสุดขั้ว กินแล้วเย็นไปถึงรูขุมขนได้ยิ่งดี นั่นจะทำให้คุณตื่น (แต่บางคนอาจจะหลับ) เรื่องลูกอมต้องค่อยๆลองไปสลับไปได้เรื่อยๆ ยิ่งดี วันนึงก็รสนึง อีกวันก็รสใหม่ จะทำให้เราไม่คุ้นและไม่ง่วง




8. หากเรียนไปแล้วเริ่มจะเข้าเฝ้าเทวดา : ให้นึกถึงเวลาที่ใกล้จะหมดสิคะ นั่นอาจจะทำให้รู้สึกลัลล้าและตื่นเต็มตาได้ แต่ถ้าหากเพิ่งจะเริ่มเรียนแล้วง่วงละก็ ลองไปล้างหน้าล้างตาดูนะคะ




9. บรรยากาศในห้องเรียน : เป็นส่วนหนึ่งทำให้เคลิ้มได้ บางทีก็เย็นจนปอดจะแข็งตาย บางทีก็ร้อนตับจะออกมานอกร่าง ขอแนะนำว่าให้ลองใจกล้าเดินไปบอกพี่ที่คุมเลยค่ะ ว่าร้อนหรือหนาว จะได้ไม่รู้สึกเคลิ้มหรือไม่เครียดขณะเรียน


Credit : Mu*Tamrizm

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ไม่นานเกินรอ "โรงแรมอวกาศ"


คงไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เพราะอีกไม่นานนี้ “กาแล็กติก สวีท สเปซ รีสอร์ต” (Galactic Suite Space Resort) ในบาร์เซโลนา เตรียมเปิดให้บริการลูกค้าเข้าพักในโรงแรมกลางอวกาศเป็นครั้งแรกแล้ว โดยจะเปิดให้บริการในปี 2012 ถึงแม้ว่าจะมีเสียงวิจารณ์และตั้งคำถามถึงแหล่งเงินลงทุนตลอดจนกรอบเวลาที่ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับโครงการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นี้




โดยบริษัทกาแล็กติก สวีทได้ตั้งราคาค่าบริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการเข้าพักในโรงแรมอวกาศแห่งแรกของโลกไว้ที่ 3 ล้านยูโร (ราว 148 ล้านบาท) โดยคิดรวมค่าที่พักสามคืนและการฝึกอบรมก่อนขึ้นสู่อวกาศจริงอีก 8 สัปดาห์บนเกาะแห่งหนึ่ง



ในระหว่างเข้าพักในโรงแรมอวกาศ ลูกค้าจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นวันละ 15 ครั้ง และท่องรอบโลกครบหนึ่งรอบทุกๆ 80 นาที โดยลูกค้าจะต้องสวมชุดเวลโคร (velcro)แบบมีตะขอเกี่ยวเพื่อให้สามารถไต่ไปตามผนังภายในยานอวกาศ ได้อย่างคล่องแคล่วประดุจ “สไปเดอร์แมน”








เซเวียร์ คลารามุนต์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของกาแล็กติก สวีท เคยเป็นวิศวกรอวกาศมาก่อน เขากล่าวว่าโครงการนี้จะทำให้บริษัทของเขา (http://www.galacticsuite.com) ก้าวขึ้นไปอยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมที่เพิ่งตั้งไข่นี้ และจะมีโอกาสเติบโตอีกมากมายในอนาคตข้างหน้า




“การเดินทางท่องเที่ยวในอวกาศในช่วงสุดสัปดาห์ อาจจะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับลูกหลานของเราในอนาคต อาจจะแค่อีก 15 ปีข้างหน้านี้เองก็ได้” คลารามุนต์ให้สัมภาษณ์




ข่าวล่าสุดได้รายงานว่าตอนนี้ฐานการบินอวกาศ “New Mexico of Spaceport America” กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยฐานการบินนี้จะเป็นฐานการบินอวกาศแห่งแรกที่รองรับลูกค้าในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในอวกาศที่กำลังอยู่ในขั้นบุกเบิกนี้




ริชาร์ด แบรนสัน ชาวอังกฤษเจ้าของบริษัทท่องอวกาศ “เวอร์จิน กาแล็กติก” จะใช้ฐานการบินแห่งนี้ในการส่งนักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปท่องอวกาศแบบไม่ครบวงโคจรรอบโลก โดยคิดค่าบริการ 200,000 ดอลลาร์ต่อเที่ยว




“กาแล็กติก สวีท” ก่อตั้งเมื่อปี 2007 และคาดว่าจะเริ่มโครงการท่องเที่ยวในอวกาศด้วย แคปซูล “ห้องชุดโรงแรม” เพียง 1 ชุด ซึ่งลอยอยู่ที่ระดับความสูง 450 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 30,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีขีดความสามารถที่จะรับรองลูกค้าได้ 4 คนกับนักบินอวกาศอีก 2 คน




สำหรับการเดินทางไปยัง “ห้องชุด” นี้จะต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันครึ่ง คลารามุนต์เปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนกับการเดินทางไปพักผ่อนอย่างสงบเงียบบนภูเขา ซึ่งจะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับเมื่อนักเดินทางไปถึงจุดหมาย




“เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปอยู่ในจรวดแล้ว ก็จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในนั้น -ในจรวดและในแคปซูล เป็นเวลาสามวันด้วยกัน โดยเราได้วางระบบที่จะทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจว่าจะไม่ถูกทอดทิ้ง หลังจากนั้นครบสามวันแล้ว นักท่องเที่ยวก็จะกลับเข้าสู่จรวดขนส่งและเดินทางกลับสู่พื้นโลก” เขากล่าว




ทั้งนี้ที่ผ่านมา มีผู้แสดงความสนใจเดินทางไปพักผ่อนในโรงแรมอวกาศของกาแล็กติก สวีทแล้วกว่า 200 คนแล้ว และมีอย่างน้อย 43 คนที่ได้จองที่พักแล้วด้วย ขณะที่เวอร์จิน กาแล็กติก ก็มียอดผู้จองหรือชำระค่าท่องเที่ยวในอวกาศแล้วถึงราว 300 คนเช่นกัน




อย่างไรก็ตาม กาแล็กติก สวีทระบุว่าบริษัทจะใช้จรวดของรัสเซียในการส่งลูกค้าขึ้นสู่อวกาศโดยมีฐานส่งจรวดอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่งในแคริบเบียนซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ทำให้มีผู้วิจารณ์ว่ากรอบเวลาที่บริษัทตั้งไว้นั้นดูไม่สมเหตุสมผล และยังตั้งคำถามด้วยว่าบริษัทได้เงินสนับสนุนโครงการมาจากแหล่งใด ซึ่งคลารามุนต์ตอบว่ามีมหาเศรษฐีนิรนามผู้สนใจเรื่องอวกาศอย่างมากได้ให้เงินสนับสนุนโครงการของเขาถึง 3,000 ล้านดอลลาร์

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

พัฒนาสมองแบบชิวๆ สไตล์ "นิวโรบิค"





วิธีการพัฒนาสมองวิธีนี้คิดขึ้นโดย Lawrence C. Katz, Ph.D., เป็นวิธีที่เหมือนกับการออกกำลังกายสมอง หรือออกกำลังเส้นประสาทของเรา วิธีนิวโรบิคนี้จะทำที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ แล้วแต่ความเหมาะสม


-
อย่างถ้าน้องๆ แปรงฟันด้วยมือขวา ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นมือซ้าย

-
เปลี่ยนเส้นทางกลับบ้านจากทางเดิมประจำ

-
ใช้รีโมทมือซ้าย ก็เปลี่ยนมาเป็นมือขวา

-
ฟังเพลงไปด้วย แอบดมดอกไม้ไปด้วยพร้อมกัน

-
เปลี่ยนร้านที่เราซื้อของประจำบ้าง (ระวังอย่าให้แม่ค้าร้านประจำเห็นนะ เดี๋ยวเค้าจะงอน อิอิ)

-
หลับตาแต่งตัว (คือปิดตาไม่มอง หรือไม่มองกระจกตอนแต่งตัว)

-
เปิดกลอนประตูตอนหลับตา (ไม่ใช่ละเมอนะ)




โอ้...วิธีนิวโรบิคนี้ทำได้ง่าย ไม่ยากเหมือนชื่อเลยนะคะ ซึ่งวิธีที่ว่ามาทั้งหมด อย่างการสลับใช้มือซ้ายมือขวา ก็เหมือนการบริหารสมองซีกที่ไม่ค่อยได้ใช้ ให้ได้ใช้งานบ้างค่ะ แค่เปลี่ยนเหตุการณ์เล็กน้อย แต่ก็เป็นการทำให้สมองได้รับการกระตุ้น ทั้งสนุกและง่าย ดีกว่าปล่อยให้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวจะฝ่อไปซะก่อน อิอิ

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

มาดูห้องทำงานเดิ้ลๆก๊า น น * , ,



ห้องทำงาน สีสันสดใสน่ารัก **


ขอสีสันท้าทายความสามารถที่กำลังจะค้นพบ






มาจัดหีบห่อเก๋เก๋ ก่อนนำเสนอไอเดียของงาน





มุมสุมหัว รวบรวมไอเดียจากเพื่อนร่วมงาน




มุมแสนเก๋ที่เข้าที่เข้าทางได้พอดิบพอดี


ขาว-ดำ ยังไงก็ดูคลาสสิคอยู่ดี

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552

แฟชั่นเท่ๆ ใสๆ ของสาวเกาหลี * , ,

ตอนนี้หันไปทางไหนก็เป็นเทรนด์เกาหลีกันซ่ะหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย หรือแม้แต่ทรงผม ก็ยังฮิตฮอตไม่เบื่อ







วันนี้จึงนำเทรนด์การแต่งตัวใสๆ ของสาวๆ เกาหลีมาให้สาวไทยได้อัพเดรตและนำไปมิกซ์แอนด์แมทซ์

ให้สวยสุดฤทธิ์กันไปเลยค่ะ









วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552

เทรนด์สบายๆ * , , 2


เดรสสั้นแต่งสวย ปรี๊ด โดนใจสาวๆ **


เดรสสั้น สำหรับสาวๆแล้ว เป็นที่ชื่นชอบและนิยมสวมใส่ เพราะนอกจากจะใส่ง่าย ใส่ สบายแล้วยังไม่ต้องลำบากสรรหา Accessories มาแมซมากมาย เพียงแต่ใส่เข้าคู่กับรองเท้าสวยๆ เก๋ๆ สักชิ้น แค่นี้ก็ทำให้คุณสวยได้ไม่แพ้ใครเชียวล่ะ









สาวๆคนไหนที่ชื่นชอบแฟชั่นเกาหลี คงต้องหาเดรสสั้นเก๋ๆ มาใส่อวดสายตาหนุ่มๆบ้างแล้วล่ะ












เครดิต :: globalfashionreport.com

เทรนด์สบายๆ * , ,


ยีนส์เก่า กางเกงขาด เทรนด์ฮิตสตรีทแวร์ **

สาวๆคนไหนที่รักการใส่ยีนส์ และไม่อยากทิ้งมันไปเมื่อถึงคราวชำรุด หลายๆคนนำมาตัดขาให้สั้นซ่ะเลย ใส่สวยเปรี้ยว ในวันสบายๆ

สาวๆคนจะทราบว่าเทรนด์ที่ไม่มีวันเอาท์นั้น ก็คือ กางเกงยีนส์นั่นเองค่ะ
>> นอกจากนี้ยังเลือกใส่ได้ทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
และจากนี้ไปจะเป็นตัวอย่างยีนส์ที่น่าจะใส่ได้ดีในวันสบายๆค่ะ
















เครดิต :: globalfashionreport.com

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

Chunky Chokers..ตามกระแสฮอลลีวู้ด ^^

  



Chunky Chokers จุดเริ่มต้นความฮอตนั้นก็ไม่ใช่อื่นไกลอาจเริ่มจากที่ดาราฮอลลีวู้ดหัวกบฏบางคนเริ่มหันมาใส่สร้อยคอเส้นโตกับเสื้อยืด กางเกงยีนส์ และเหล่าดีไซเนอร์แบรนด์ดังทั้งหลายก็เลยต่างพร้อมใจกันตอบรับสไตล์ด้วยการออกคอลเลกชั่นเครื่องประดับสร้อยคอไซต์ใหญ่เบิ่ม



ดูแล้วสาวๆ หลายคนอาจจะคิดว่าสร้อยคอสไตล์นี้นำมาแมทส์กับเสื้อผ้าได้ยาก ขอยืนยันว่าไม่จริ๊งไม่จริงค่ะ เพราะวิธีการใส่นั้นง่ายแสนง่ายพียงแต่รู้จักมิกซ์แอนแมทส์ให้พอดี อยากเก๋แบบง่ายๆ สบายๆ เลือกสวมกับเสื้อยืด กางเกงยีนส์ หากต้องการให้เป็นทางการขึ้นมาหน่อย จับคู่กับเดรสสีสด อยากให้สร้อยหรือชุดเด่นกว่า เลือกได้ตามใจชอบ แต่สำหรับสาวใจกล้าและแนวสุดๆ ขอแนะลุคมัดผมรวบตึง ใส่เกาะอกหรือเสื้อกล้ามโชว์ความเด่นของสร้อยกันเลยค่ะ


  


  







**ส่วนรองเท้ากับกระเป๋า คิดว่าว่าสาวๆ น่าจะเลือกสีโทนขรึมไว้ก่อนเป็นน่าจะเหมาะที่สุดนะคะ ดูเรียบง่ายไม่แย่งจุดเด่นดีค่ะ

เครดิต :: globalfashionreport.com